อธิบาย เรื่อง Active D Lighting จากน้าหนก

Ads

NR ต้องดูด้วยกว่ากล้องรุ่นไหน
ถ้าเป็น D90 , D300 High ISO NR จะทำงานที่ ISO 1000 ( ต่ำกว่านั้นไม่ทำงาน ไม่ว่าจะเปิดหรือปิด )
ถ้าเป็น D700 , D3 High ISO NR จะเริ่มทำงานที่ ISO 2000 ( ต่ำกว่านั้นไม่ทำงาน ไม่ว่าจะเปิดหรือปิด )
ถ้าเป็น D3s High ISO NR จะเริ่มทำงานที่ ISO 4000 ( ต่ำกว่านั้นไม่ทำงาน ไม่ว่าจะเปิดหรือปิด )

Active D-Lighting ถ้าเข้าใจว่ามันทำงานอย่างไร และเข้าใจว่าในสถานะการณ์ใดควรใช้หรือไม่ควรใช้ ก็จะไม่ใช่คำถามว่าควรจะเปิดหรือปิดดี

ข่าวดีสำหรับคนที่คิดว่า เปิดแล้วมาสั่งปิดใน NX capture แล้วมันจะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันไม่ได้เป็นแบบที่คิดหรอกครับ
แนะนำ sceneง่ายๆสำหรับที่จะทำให้คิดว่าควรจะปิดหรือเปิดดู
1. ถ่ายย้อนแสง ให้ฉากหลังสว่างมากๆ เทียบระหว่างเปิดหรือปิด ( เปิด L , N , H , Extra H ถ้ามี ) แล้วเอา NEFไปลองสั่งปิดดูใน NX captureด้วย
2. ถ่ายภาพที่มีฉากหลังสีเข้ม เช่น ท้องฟ้าสีน้ำเงินที่เกิดจากใช้ CPL หรือ ถ่ายภาพกลางคืน ที่ฉากหลังมืดไล่โทนไปหาสว่าง แล้วสั่งปิด กับเปิดดู ลองดูใน NEF ด้วยนะครับ

ที่บอกแบบนี้ก็เพราะว่า ถ้าจะเปิดก็เปิดไปเลย อย่าเผื่อมาสั่งปิดทีหลังใน NX capture ผลมาต่างกันกว่าที่คิดเยอะ
ทำไม ?
Concept ของ Active D-lighting เป็น Scene recognize ไม่ได้มีกฎตายตัวเหมือนกับ Highlight tone priority ถ้าเราใช้งานมันจนเข้าใจว่ามันทำงานแบบไหน มากน้อยตามลักษณะ scene ยังไง เราก็จะเลือกเปิดปิดได้อย่างเหมาะสม
ก่อนใช้ Active D-Lighting กรุณาปรับระบบวัดแสงเป็น Matrix ( เฉลี่ยทั้งภาพ ) และ AutoExposure จะ A , S หรือ P ก็ได้ ( แต่อย่าใช้ M ) ผมไม่บอกหรอกว่าทำไม? แต่ผมบอกแล้วว่ามันคือ Scene recognize มันคือระบบAutoแบบฉลาดสุดๆ นั่นก็แปลว่าถ้าคุณทราบแบบนี้แล้ว คุณจะไปขวางระบบAutoทำไม

ยกตัวอย่าง Scene มาตรฐานที่ควรเปิด
- ถ่ายย้อนแสง ฉากหลังสว่างมากๆ เช่น คนยืนย้อนแสง เปิด Active D-Lighting High วัดแสงปกติชดเชยประมาณ +1 2/3 stops คุณจะได้ภาพคนที่ใส ฉากหลังใส เงาไม้ไม่ตุ่น ฉากหลังไม่เวอร์ เพราะถ้าคุณลองปิด ADL คุณจะพบว่ากล้องมันวัดแสงunderกว่าที่ควรจะเป็น (เทียบกับปิด ADL ) - 2/3 stops หลังจากถ่าย กล้องจะทำการ processภายในกล้องตามฐานข้อมูลที่มันมีอยู่ แต่คุณเอาNEFไปสั่งปิด ADL ใน NX capture คุณก็จะพบว่า รูปติดunderไปมากมาย

ยกตัวอย่าง Scene ที่ไม่ควรเปิด
- ถ่ายตามแสง หรือ ฉากหลังเป็นสีเข้ม ฉากหลังดำ ฉากหลังเป็นท้องฟ้าสีสดโดยเฉพาะตัดCPL เพราะ ADL จะทำการถ่ายให้ under แล้วทำการยกcurve ในส่วนมืดให้สว่างขึ้น แต่ส่วนมืดมีจำนวน bit น้อยกว่าส่วนสว่าง ถ้าส่วนมืดมีสีสดมากๆ เวลาCPUของกล้องสั่งยกcurve มันจะไม่เก่งพอ เราก็จะเห็นปรากฏการณ์ Aurora เป็นชั้นๆไล่โทนกับส่วนที่เป็นท้องฟ้าสีสด เข้าไปสั่งปิด ADL ในNX capture ก็ไม่สามารถแก้ได้

จะบอกว่า NEF ไม่ใช่ RAW file แท้ๆอย่างที่เข้าใจกันนะครับ มันคือ processed raw file ในระดับหนึ่งก่อน แล้วจึงเขียนเป็น NEF file ออกมา กล้องมันprocessไประดับหนึ่งแล้ว ดังนั้น NX capture จึงไม่สามารถจัดการอะไรกับNEFได้ในทุกๆกรณีหรอกครับ

จะบอกว่า Nikonไม่ใช่กล้องที่ถ่ายได้ง่ายนัก ไม่ใช่กล้องที่ทำลั่นแล้วจะได้ภาพสวยเสมอ
ภาพจากกล้องNikon ที่เห็นว่าสวยหลังกล้องนั้นก็คือ ผู้ถ่ายต้องเข้าใจวิธีในการถ่ายภาพ การวัดแสง การเลือกparameterของกล้อง พูดง่ายๆว่า Nikonไม่เหมาะสำหรับคนที่ซื้อมาเก็บแล้วอยากจะได้ภาพสวยเป็นครั้งคราว แต่มันเป็นกล้องของคนที่ขยันถ่ายภาพ